สโมสรลิเวอร์พูล ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1892 โดย จอห์น โฮลดิ้ง ผู้ซึ่งเป็นนักธุรกิจและเป็นว่าที่นายกเทศมนตรีของเมืองลิเวอร์พูล โดยในเริ่มแรก เริ่มจากการเช่าพื้นที่บนถนนแอนฟิลด์ ในเมืองลิเวอร์พูล เพื่อทำการสร้างสนามฟุตบอลและได้ปล่อยให้ สโมสรเอฟเวอร์ตัน เช่าสนามในปี 1884 จนถึงในช่วงที่เอฟเวอร์ตัน เข้าไปเป็นสมาชิกฟุตบอลลีก และแสดงเจตนาไม่ต่อสัญญาเช่าสนามอีกต่อไปในปี 1892 โดยมีสาเหตุจากการที่ จอห์น โฮลดิ้ง ต้องการที่จะขึ้นค่าเช่าสนามจากเดิมที่จ่ายอยู่ที่ 100 ปอนด์ต่อปี เพิ่มเป็น 250 ปอนด์ต่อปี รวมถึงการที่เขาพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงเพื่อเข้ามาบริหารทีมเอฟเวอร์ตัน ทำให้บอร์ดบริหารของเอฟเวอร์ตันจึงตัดสินใจย้ายไปใช้สนามอื่นแทน โดยใช้ชื่อสนามว่า “กูดิสันพาร์ก” จนถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้น จอห์น โฮลดิ้ง จึงตัดสินใจตั้งสโมสรฟุตบอลขึ้นมาเอง โดยแต่งตั้งให้ จอห์น แมกเคนนา เพื่อนของเขามารับตำแหน่งประธานสโมสร และได้ตั้งชื่อว่า “ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ” และหลังจากมีการแต่งตั้งสโมสรขึ้นมาเพียงเวลาไม่นาน ลิเวอร์พูล ก็สามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด
โดยลิเวอร์พูล ลงสนามเป็นครั้งแรก เมื่อปี 1892 พบกับ รอเทอร์ดามทาวน์ ซึ่งในเกมที่ลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะไปได้ถึง 7-1 ซึ่งนักเตะของลิเวอร์พูลที่ลงสนามในเกมนี้เป็นชาวสกอตแลนด์ทั้งหมด และในเกมการแข่งขันฟุตบอลของแคว้นแลงคาเชอร์ ซึ่งสามารถเอาชนะทีม ไฮเออร์เวอร์ตัน ไปด้วยสกอร์ 8-0 ซึ่งลิเวอร์พูลลงสนามไป 22 นัดชนะไปถึง 17 นัด และคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลสามารถสมัครเข้าร่วมฟุตบอลลีกได้ โดยเริ่มแรก ลิเวอร์พูล ลงเล่นในดิวิชั่น 2 ก่อนในปี 1893-1894 ซึ่งในการลงสนามของลิเวอร์พูล ก็สามารถเก็บชัยชนะมาได้ในทุกเกมที่ลงสนามคือ 28 นัด แต่ในตอนนั้นการจะได้เลื่อนชั้นจะต้องไปแข่งกับทีมอันดับสองเสียก่อน ซึ่งก็คือ ทีมนิวตันฮีต ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันนั้นเอง ซึ่งลิเวอร์พูลก็สามารถเอาชนะมาได้ 2-0 และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล เลือกสัญลักษณ์ของสโมสรเป็นนกไลเวอร์เบิร์ด ซึ่งเป็นนกในตำนานที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองลิเวอร์พูล โดยที่ปากของนกคาบใบไม้ไว้ และหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นสโมสรฟุตบอลชั้นแนวหน้าในประเทศอังกฤษอย่างรวดเร็ว แต่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1900-1901 ต่อมาสามารถคว้าแชมป์อีกครั้งได้ในปี 1905
สำหรับในช่วง 1901-2000 ลิเวอร์พูลประสบปัญหาในเรื่องของฟอร์มการเล่นของนักเตะที่ไม่สม่ำเสมอ เพราะลิเวอร์พูล ต้องตกชั้นสลับกับเลื่อนชั้นในดิวิชั่น1 และดิวิชั่น 2 อยู่บ่อยครั้ง และก็ยังมีผลงานในการคว้าแชมป์ได้อยู่เรื่อยๆ
จนในช่วง 1954 ลิเวอร์พูลต้องกลับลงไปเล่นในดิวิชั่น 2 อยู่นาน และยังไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนที่เข้ามาช่วยให้ลิเวอร์พูลกลับขึ้นมายังดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ
จนกระทั่ง ในปี 1958 บิลล์ แชงคลี เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม และเขาใช้เวลาเพียง 2 ฤดูกาลเขาก็สามารถพาทีมขึ้นไปยังดิวิชั่น 1 ได้อีกครั้ง ในปี 1962 ซึ่งเขามีแนวคิดการคุมทีม คือ การเล่นบนพื้นและเน้นการส่งบอลและรับบอลอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของลิเวอร์พูลมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ บิลล์ แชงคลี ลาออกจากทีมไปใน 1973 โดยผลงานของเขาคือ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในปี 1964 ,คว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นครั้งแรก ในปี 1965 ,คว้าแชมป์ลีกสูงสุด ในปี 1966 ,คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพในปี 1972
และหลังจากนั้น บ๊อบ เพสลีย์ มือขวาของ บิลล์ แชงคลี รับช่วงต่อเป็นผู้จัดการทีม และ บ๊อบ ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปี ในการคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพเป็นครั้งแรก ในปี 1977 และหลังจากนั้น บ๊อบ ก็พาลิเวอร์พูล ประกาศความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าดับเบิลแชมป์จากดิวิชั่น 1 และยูโรเปียนคัพมาครอง บ๊อบ เพสลีย์ ประกาศลาออกในปี 1983 โดยมีโจ เฟแกน ขึ้มาเป็นผู้จัดการทีมต่อ ซึ่ในฤดูกาลแรกในการคุมทีมเขาสามารถพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จจาก ลีกสูงสุด , ลีกคัพ และยูโรเปียนคัพ และกลายเป็นทีมฟุตบอลอังกฤษทีมแรกที่สามารถคว้าถ้วยแชมป์ 3 ถ้วยได้ในหนึ่งฤดูกาล และในช่วงการคุมทีมของเขาในปี 1985 ได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ในรอบชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ ที่พบกับยูเวนตุส โดยก่อนการแข่งขันแฟนบอลลิเวอร์พูลได้พังรั้วกั้นเขาปะทะกับแฟนบอลยูเวนตุส จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 39 คน ซึ่งเหตุการณ์นี้ครั้งนี้ถูกเรียกว่า ภัยพิบัติเฮย์เซล และเกมการแข่งขันนั้นยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางการคัดค้านของผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่าย สุดท้าย ลิเวอร์พูลแพ้ไป 1-0 และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ ทีมฟุตบอลจากอังกฤษไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในยุโรปได้ 5 ปี และลิเวอร์พูลห้ามเข้าร่วม 10 ปี แต่ภายหลังถูกลดลงมาเหลือ 6 ปี
หลังจากนั้น เฟแกน ก็ได้ประกาศลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีม และเป็น เคนนี ดัลกรีช ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม และกลายเป็นนักเตะคนแรกของสโมสรที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งเขาก็สามารถพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ได้ในปีแรกที่เขาได้คุมทีม
ในปี 1989 ลิเวอร์พูล ต้องพบกับความเศร้าโศกอีกครั้งเมื่อเกิด โศกนาฏกรรมฮิลล์โบโร ขึ้นในเกมเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศที่พบกับ นอตติ้ง แฮมฟอเรสต์ โดยแฟนบอลของลิเวอร์พูลเสียชีวิตไปถึง 95 คน ในปี 1990 ดัลกริช ประกาศลาออกเนื่องจากความเครียดจากเหตุการณ์ดังกล่าว และหลังจากนั้น ลิเวอร์พูลไม่ประสบความสำเร็จมากนั้น พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ในลีกสูงสุดได้อีกเลย แม้ว่าจะสามารถคว้าแชมป์ในรายการอื่นได้ แต่ก็ไม่ให้เป้าหมายแห่งความสำเร็จที่แฟนบอลต้องการ
ในปัจจุบัน เป็นยุคของ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เขาเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูลเมื่อปี 2015 ด้วยระยะเวลา 5 ปี
ในปี 2015 เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพและยูฟ่ายูโรปาลีก และ เขาสามารถพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 2019-2020 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 19 และเป็นสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก รวมถึงเป็นการคว้าแชมป์ในลีกสูงสุดได้ครั้งแรกในรอบ 30 ปีอีกครั้ง